อีเมลแคมเปญจากผู้ไม่หวังดี แอบอ้างชื่อโดเมนลูกค้า เพื่อส่งสแปมและลิงก์ปลอม
กรณีศึกษา: อีเมลแคมเปญจากผู้ไม่หวังดี แอบอ้างชื่อโดเมนลูกค้า เพื่อส่งสแปมและลิงก์ปลอม
ภาพรวมเหตุการณ์
ในช่วงที่ผ่านมา พบการส่ง อีเมลแคมเปญโดยผู้ไม่หวังดี (Malicious Campaign) ที่ใช้ ชื่อโดเมนจำนวน 4 ราย แอบอ้างเป็นต้นทาง (spoofed domain) เพื่อส่งข้อความสแปมและอีเมลฟิชชิ่งไปยังผู้รับจำนวนมาก โดยมี เจตนาหลอกลวงให้ผู้รับคลิกลิงก์ปลอม ที่มุ่งหวังขโมยข้อมูลส่วนบุคคล รหัสผ่าน หรือข้อมูลทางการเงิน
อีเมลดังกล่าวมักมีลักษณะดังนี้
- ใช้ชื่อโดเมนขององค์กรจริงในช่อง “From” เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
- แนบลิงก์ไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบหน้าล็อกอินขององค์กร
- มีข้อความเชิงเร่งด่วน เช่น “รีเซ็ตรหัสผ่านด่วน”, “ตรวจสอบสถานะบัญชี”, หรือ “เอกสารรอดำเนินการ”
- มักส่งผ่าน SMTP relay ภายนอกที่ไม่ได้รับอนุญาต
เหตุการณ์ลักษณะนี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงทั้งต่อชื่อเสียงขององค์กร และต่อผู้ใช้ปลายทางที่อาจตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวง
โซลูชันความปลอดภัยไซเบอร์ครบวงจร ปกป้ององค์กรจากภัยคุกคาม ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของอีเมลจนถึงโลกใต้ดิน (Dark Web)
1. Email Security & Threat Protection ระบบป้องกันภัยทางอีเมลที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนของการโจมตี
คุณสมบัติเด่น: - Phishing & Impersonation Defense
ป้องกันอีเมลปลอมที่แอบอ้างผู้บริหารหรือพาร์ทเนอร์ธุรกิจ ด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมและความสัมพันธ์ของผู้ส่ง - URL & Attachment Defense
ทุกลิงก์ในอีเมลจะถูกรีไรต์และตรวจสอบแบบเรียลไทม์ หากปลายทางถูกเปลี่ยนเป็นลิงก์อันตรายภายหลัง ระบบจะบล็อกโดยอัตโนมัติ
ไฟล์แนบทุกประเภทจะถูกส่งเข้า sandbox เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมก่อนถึงผู้ใช้ - Auto Pull & Automated Remediation
เมื่อตรวจพบอีเมลที่ภายหลังถูกระบุว่าเป็นอีเมลอันตราย ระบบจะ ดึงออกจากกล่องจดหมายของผู้ใช้ทุกคนโดยอัตโนมัติ
ลดเวลาในการตอบสนองจากชั่วโมงเหลือไม่กี่นาที - Advanced Authentication Controls
รองรับการยืนยันตัวตนและการเข้ารหัสอีเมล เพื่อป้องกันการส่งข้อมูลสำคัญออกนอกองค์กร
2. User Awareness & Human Risk Management เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับบุคลากรในองค์กร — เพราะ “คน” คือแนวป้องกันด่านสุดท้ายของทุกการโจมตี
ความสามารถหลัก: - จำลองสถานการณ์ฟิชชิ่ง (Phishing Simulation) เพื่อทดสอบการรับรู้ของผู้ใช้
- โปรแกรมอบรมด้านความปลอดภัยแบบโต้ตอบ (Interactive Awareness Training)
- ประเมินและจัดระดับความเสี่ยงของผู้ใช้แต่ละคน (User Risk Scoring)
- วิเคราะห์พฤติกรรมการคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบ เพื่อให้ทีม Security ปรับกลยุทธ์การอบรมได้ตรงจุด
3. Information Protection & Data Loss Prevention (DLP) โซลูชันป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ (Data Leakage) ทั้งภายในและภายนอก
คุณสมบัติหลัก: - ตรวจจับข้อมูลสำคัญ เช่น ข้อมูลลูกค้า หมายเลขบัตรประชาชน หรือข้อมูลทางการเงิน ที่พยายามส่งออกทางอีเมลหรือคลาวด์
- วิเคราะห์เนื้อหาและบริบท (Content + Context) เพื่อแยกพฤติกรรมที่ผิดปกติออกจากการใช้งานทั่วไป
- เข้ารหัสข้อมูลสำคัญโดยอัตโนมัติ (Auto Encryption) และควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงไฟล์ (Access Control)
4. Cloud & Collaboration Security ปกป้องการทำงานร่วมกันบนแพลตฟอร์มคลาวด์ เช่น Microsoft 365, Google Workspace และเครื่องมือสื่อสารภายใน
คุณสมบัติหลัก: - ตรวจจับการแชร์ไฟล์เกินสิทธิ์หรือเผยแพร่ข้อมูลผิดช่องทาง
- ป้องกันการเชื่อมต่อแอปภายนอก (OAuth App) ที่อาจเป็นอันตราย
- ให้การมองเห็นและควบคุมกิจกรรมผู้ใช้ใน SaaS อย่างครบวงจร (CASB Functionality)
5. Threat Intelligence & Digital Risk Protection ระบบเฝ้าระวังภัยคุกคามจากภายนอกที่ช่วยให้องค์กรมองเห็น “สิ่งที่เกิดขึ้นนอกขอบเขตเครือข่ายของตน”
คุณสมบัติเด่น: - Dark Web Monitoring & Data Leak Detection
ตรวจจับข้อมูลที่รั่วไหลขององค์กร เช่น Credential, Token, Database dump, หรือข้อมูลพนักงาน
ที่ถูกโพสต์หรือซื้อขายใน Dark Web — ก่อนที่จะถูกนำไปใช้โดยผู้ไม่ประสงค์ดี - Early Warning & Preemptive Defense
เมื่อระบบตรวจพบการรั่วไหล ระบบจะแจ้งเตือนทันที เพื่อให้ทีมความปลอดภัยสามารถรีเซ็ตบัญชี ปิด API หรือจำกัดการเข้าถึงก่อนเกิดเหตุโจมตี - Brand & Domain Impersonation Monitoring
เฝ้าระวังการสร้างเว็บไซต์หรือโดเมนปลอมที่แอบอ้างชื่อองค์กร เพื่อใช้ในแคมเปญฟิชชิ่งหรือหลอกลวงผู้ใช้ - Threat Actor Tracking & Intelligence Correlation
วิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มผู้โจมตี (Threat Actor) และเชื่อมโยงข้อมูลกับเหตุการณ์ในระบบภายใน
เพื่อระบุแหล่งที่มาของภัยและแนวโน้มการโจมตีในอนาคต
6. Integrated Cyber Defense Platform การผสานระหว่างระบบ “ป้องกันอีเมล” และ “เฝ้าระวังภัยจากภายนอก”
ช่วยให้องค์กรมีมุมมองความปลอดภัยแบบครบวงจร ทั้ง
Prevention – Detection – Response ตัวอย่างการทำงานร่วมกัน: - หากพบโดเมนปลอมที่กำลังใช้ใน Dark Web → ระบบอีเมลจะอัปเดตนโยบายบล็อกโดเมนนั้นอัตโนมัติ
- เมื่อมีอีเมลฟิชชิ่งถูกส่งเข้ามา → ระบบ Threat Intelligence สามารถตรวจสอบและเชื่อมโยงกับกิจกรรมบนเว็บใต้ดิน เพื่อหาต้นตอของภัย
- หากพบข้อมูลผู้ใช้ถูกขายในตลาดมืด → ระบบ DLP จะบังคับใช้นโยบายการเข้ารหัสและรีเซ็ตรหัสผ่านทันที
ผลลัพธ์คือการสร้าง “วงจรความปลอดภัยไซเบอร์” ที่ตอบสนองได้อัตโนมัติ ป้องกันเชิงรุก และลดความเสี่ยงทั้งภายในและภายนอกองค์กร
สรุปภาพรวม โซลูชันนี้ออกแบบบนแนวคิด
Human & Intelligence-Centric Security คือการผสานเทคโนโลยีที่ป้องกัน “ผู้ใช้ – ข้อมูล – อีเมล – และข้อมูลภายนอก” เข้าด้วยกัน
เพื่อให้ทุกชั้นของการป้องกันสื่อสารกันได้อย่างชาญฉลาด
ไม่เพียงตรวจจับและบล็อกภัย แต่
มองเห็นได้ลึกถึงต้นตอของความเสี่ยงก่อนเกิดการโจมตี